สื่อและนักสิทธิมนุษยชนตั้งวงถกบทบาทของสื่อและการสอบสวนในคดีเกาะเต่า
กลุ่มมีเดีย อินไซด์ เอ้าท์ ร่วมกับ คณะเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร สาขานิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร และแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย จัดเสวนาหัวข้อ "บทบาทสื่อมวลชนกับกระบวนการยุติธรรม : บทเรียนจากเชอรี่แอน-เกาะเต่า" โดยผู้ร่วมเสวนาได้หยิบยกประเด็นการทำหน้าที่ของสื่อมวลชนและเจ้าหน้าที่ตำรวจในคดีฆาตกรรมนักท่องเที่ยวที่เกาะเต่า สื่อที่มีประสบการณ์ทำรายการประเภทสืบสวนสอบสวนตั้งข้อสังเกตว่าผู้ต้องหาที่เป็นผู้ด้อยโอกาส มีสิทธิ์ถูกดำเนินคดีสูง ด้านทนายความสิทธิ์ชี้ผู้ให้ข่าวควรมีความระมัดระวัง ด้านตัวแทนสื่อทีวียอมรับมีแรงกดดันให้ต้องเค้นหาข่าว
โดย น.ส.ปรีดา ทองชุมนุม ทนายความ มูลนิธิเพื่อสิทธิมนุษยชนและการพัฒนา 1 ในผู้เข้าร่วมเสวนา กล่าวว่า เมื่อเกิดเหตุการณ์ฆาตกรรมนักท่องเที่ยวที่เกาะเต่า ทางมูลนิธิฯ ได้รับเรื่องร้องขอมาจากแรงงานในเกาะว่า มีการบังคับแรงงานข้ามชาติตรวจดีเอ็นเอ และเมื่อลงพื้นที่ไปคุยกับแรงงาน พบว่าบางคนถูกขู่และถูกบังคับให้รับสารภาพ ซึ่งบางคนก็ไม่ยอมรับ จึงทำเรื่องไปถึงคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) เพื่อให้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ส่วนทำงานของสื่อมวลชนในกรณีนี้ ตนไม่แน่ใจว่าได้มีการประเมินการนำเสนอข่าวหรือไม่ว่าเหมาะสมแค่ไหน ในส่วนจรรยาบรรณของคนให้ข่าวก็เป็นสิ่งที่ต้องพิจารณา เช่นล่ามที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการสอบสวน รวมทั้งองค์กรอิสระ คือ คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติด้วย
ด้าน น.ส.ทัดดาว ทองอิ่ม ผู้สื่อข่าวสถานีโทรทัศน์ TNN 24 กล่าวถึงการลงพื้นที่ทำคดีนี้ที่เกาะเต่าว่า เนื่องจากเป็นคดีดัง ทุก ๆ วันทีมข่าวในพื้นที่จะถูกกดดันจาก บก. ข้างใน ตามความคืบหน้า เมื่อถูกกดดันทีมข่าวก็จะไปกดดันตำรวจ ไปถามความคืบหน้า ซึ่งบางทีตำรวจมีข้อมูลไม่ตรงกัน ทำให้ทีมข่าวต้องออกไปถามชาวบ้านแถวนั้น ถามแรงงานพม่า ไปขุดคุยข้อมูล โดยเฉพาะกล้องวงจรปิด ทุกสำนักข่าวไปขอ ไปทำตัวเป็นตำรวจ ซึ่งตำรวจเองเห็นว่าสร้างความลำบากให้เจ้าหน้าที่
สนับสนุนเนื้อหา